4 พฤศจิกายน 2567
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า พริกในประเทศไทยมีความหลากหลายทั้งในเรื่องชนิดและการใช้ประโยชน์ และถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทย ทั้งในรูปของพริกสดและพริกแห้ง นอกจากจะเป็นเครื่องปรุงรสแล้ว พริกยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและมีสารต้านอนุมูลอิสระ
ประเทศไทยมีผลผลิตพริกเฉลี่ยประมาณ 200,000 ตันต่อปี โดยมีการขยายพื้นที่ปลูกในหลายจังหวัด เช่น อุบลราชธานี ตาก และเชียงใหม่ สำหรับการส่งออกพริกแห้ง (ไม่บดและไม่ป่น) ไปยังต่างประเทศนั้น ประเทศที่นำเข้า 3 อันดับแรก ได้แก่ ลาว (25.1%) สหรัฐอเมริกา (21.5%) และเมียนมาร์ (20.3%) ข้อมูลล่าสุด ณ ปี 2566
กระบวนการปลูกพริกเพื่อคุณภาพ
การปลูกพริกให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ เกษตรกรต้องดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกใช้พันธุ์พริกที่มีคุณภาพ ซึ่งศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 แห่ง ภายใต้การกำกับของกองขยายพันธุ์พืช กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ทำการคัดเลือกและขยายพันธุ์พริกที่ปราศจากโรคและแมลง เกษตรกรยังต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูก โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต นอกจากนี้ สภาพอากาศและโรคพืชเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิตและราคาของพริกในตลาด ซึ่งเกษตรกรจำเป็นต้องจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง
พันธุ์พริกคุณภาพและขั้นตอนการปลูก
ศูนย์ขยายพันธุ์พืชได้พัฒนาพริกคุณภาพ 3 สายพันธุ์ ได้แก่
- พริกขี้หนูหัวเรือ พันธุ์ศก 13 : ที่มีผลสดสีแดงปนส้มเล็กน้อย รสเผ็ดปานกลาง กลิ่นหอม และขนาดผลใหญ่ ยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร
- พริกขี้หนูผลใหญ่ พันธุ์ศรีสะเกษ 1 (พริกจินดา) : มีลักษณะก้านผลยาว ผิวเรียบเป็นมัน ผลเรียวยาวสดสีแดง ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
- พริกเดือยไก่ : ที่มีผลสดสีขาวเหลืองอมส้ม รสเผ็ดจัด กลิ่นหอม และยาวประมาณ 5-7 เซนติเมตร
สำหรับขั้นตอนการปลูกมีดังนี้
- คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่สะอาด หยอดเมล็ดในระยะห่าง 2-3 เซนติเมตร รดน้ำพอชุ่ม
- เมื่อต้นกล้าอายุ 4-6 สัปดาห์ ย้ายลงแปลงที่เตรียมดินด้วยปุ๋ยคอกและปูนขาว
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือเคมีตามอายุพืช เพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดี
- เก็บเกี่ยวพริกในช่วงเช้าหรือเย็น โดยเริ่มได้เมื่ออายุพืช 70-90 วัน และเก็บเกี่ยวได้ทุก 5-7 วันต่อเนื่องนานประมาณ 6 เดือน
เกษตรกรสามารถสั่งจองพันธุ์พริกคุณภาพได้ผ่าน “DOAE Marketplace” ของกรมส่งเสริมการเกษตร หรือที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั่วประเทศ
สำหรับขั้นตอนการปลูกมีดังนี้
- คัดเลือกเมล็ดพันธุ์พริกที่สะอาด ปราศจากสิ่งเจือปน
- หยอดเมล็ดลงในวัสดุเพาะในระยะห่างประมาณ 2-3 เซนติเมตร และรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้แฉะ
- ดูแลต้นกล้าให้ได้รับแสงสว่างเพียงพอและรดน้ำอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งกล้ามีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ จึงย้ายลงแปลงปลูก
- เตรียมแปลงปลูกด้วยการไถพรวนดินแล้วตากแดดไว้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จากนั้นใส่ปูนขาว 100 – 200 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อปรับสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 3,000 – 4,000 กิโลกรัมต่อไร่ หลุมปลูกขนาด 25×25×30 เชนติเมตร ระยะปลูก ถ้าปลูกแถวเดี่ยว ระยะระหว่างต้น 50 เซนติเมตร ระยะระหว่าแถว 100 เซนติเมตร ถ้าปลูกแถวคู่ ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร ระหว่างแถว 80 เซนติเมตร ระหว่างแถวคู่ 120 เซนติเมตร รองกันหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 จำนวน 50 กิโลกรัมต่อไร่ก่อนปลูก 2 – 3 วัน
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 2-4 ตันต่อไร่ หรือปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 ปริมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อพริกมีอายุ 15-20 วัน หลังปลูก
- เพื่อรักษาคุณภาพ ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าหรือเย็น โดยสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อพริกมีอายุ 70-90 วัน และสามารถเก็บได้ทุก 5-7 วัน ผลผลิตจะยาวนานประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถสั่งจองพริกพันธุ์ดีได้ที่ “DOAE Marketplace” ผ่านเว็บไซต์กรมส่งเสริมการเกษตร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่จุดบริการพืชพันธุ์ DOAE ศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ
แหล่งที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1151981